Monitor & Virus Scan

เว็บไซต์ที่มักจะถูกโจมตีบ่อย

1. เว็บไซต์หน่วยงานที่มีอายุโดเมนนาน (จดทะเบียนมาหลายปี)
2. เว็บไซต์ที่เคยถูกโจมตีมาก่อน มักจะถูกยิงโค้ดไวรัสซ้ำ แม้จะเปลี่ยนระบบจัดการแล้ว
3. เว็บไซต์ที่ใช้ CMS ฟรี และไม่ได้อัปเกรดเป็นระยะเวลานาน เช่น Joomla, WordPress เป็นต้น
4. เว็บไซต์ที่จดโดเมนนานหลายปี และเคยใช้ WordPress มาก่อน

สำหรับลูกค้าที่ใช้ระบบหรือโปรแกรมของ AOSoft จะได้รับการ อัปเกรด CMS ให้พร้อมสำหรับการติดตั้งระบบนี้โดยไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม ชำระเฉพาะค่าบริการ Monitor & Scan เท่านั้น

เว็บไซต์ของคุณเสี่ยงถูกแฮ็กอยู่หรือเปล่า?

• เว็บไซต์โหลดช้า หรือมีไฟล์ถูกฝังโค้ดแปลก ๆ
• โดนฝังไวรัสจนลูกค้าเข้าเว็บไซต์ไม่ได้
• ยิงโฆษณาแล้วเว็บล่ม รายได้หายหมด
• อันดับ SEO ตกลงมากกว่าเดิม
• ไม่มีทีมงานช่วยเหลือเมื่อเว็บไซต์มีปัญหาหรือถูกโจมตี

เหมาะสำหรับใคร?

• ลูกค้าที่ไม่ได้ซื้อบริการ MA (Maintenance) กับทางเรา
• ลูกค้าที่ใช้งานระบบของ AOSoft อยู่แล้ว และต้องการเสริมความปลอดภัย
• เว็บไซต์ที่เคยถูกโจมตี โดยเฉพาะ WordPress ซึ่งเป็นเป้าหมายบ่อย
• เว็บไซต์ที่ต้องการความปลอดภัยของข้อมูลสูง ไม่ต้องการให้ระบบล่มนาน
• เว็บไซต์ที่มีการยิงโฆษณา (Ads) เป็นประจำ ซึ่งต้องมั่นใจว่าออนไลน์ตลอดเวลา
• บริษัทที่ไม่มีทีมงานดูแลเว็บไซต์โดยตรง และต้องการตรวจสอบเว็บไซต์เป็นประจำ

สิ่งที่คุณจะได้รับ

• ระบบสแกนไฟล์เว็บไซต์อัตโนมัติทุก 1 ชั่วโมง ตลอด 24 ชั่วโมง
• แจ้งเตือนทันทีเมื่อพบไฟล์ถูกโจมตีหรือมีความผิดปกติ
• ทีมงานผู้เชี่ยวชาญแก้ไขไฟล์ที่ติดไวรัสให้ทันทีหลังได้รับแจ้งเตือน
• ระบบ Auto Backup Database รายวัน เก็บย้อนหลังได้สูงสุด 5 วัน (จำกัดตามพื้นที่โฮสติ้ง)
• ผู้ใช้งานสามารถเข้าไปดำเนินการ Backup ได้ด้วยตนเอง
• ดูประวัติการรันระบบได้ย้อนหลัง 1 ปี
• ระบบลบข้อมูลอัตโนมัติเมื่อมีรายการเกิน 1 ปี หรือมากกว่า 10,000 รายการ

ขั้นที่ 1 : เริ่มมีอาการผิดปกติ

• เว็บไซต์ยังสามารถเข้าใช้งานได้ แต่มีสัญญาณเตือน เช่น โค้ดแปลกปลอมถูกฝัง หรือหน้าเว็บถูก Redirect ไปยังเว็บไซต์อื่น (เช่น เว็บพนัน, เว็บหลอกลวง, หรือเว็บของแฮ็กเกอร์)
• ผู้ใช้งานเริ่มรู้สึกไม่ปลอดภัยและไม่มั่นใจที่จะเข้าเว็บไซต์

ผลกระทบ: ความน่าเชื่อถือเริ่มลดลง ลูกค้าเริ่มไม่กล้าเข้าเว็บไซต์

ขั้นที่ 2 : เบราว์เซอร์แจ้งเตือนว่า “ไม่ปลอดภัย”

• เมื่อผู้ใช้เข้าเว็บไซต์ จะพบหน้าแจ้งเตือนจากเบราว์เซอร์ (เช่น Chrome, Edge, Firefox, Safari)
• ข้อความเช่น “เว็บไซต์นี้ไม่ปลอดภัย” จะปรากฏ พร้อมให้ผู้ใช้กดยืนยันหากต้องการเข้าต่อ

ผลกระทบ: ผู้ใช้งานทั่วไปจะหยุดเข้าเว็บไซต์ทันที ส่งผลให้จำนวนผู้เข้าชมลดลงอย่างรวดเร็ว

ขั้นที่ 3 : ระบบค้นหา (Search Engine) ทำเครื่องหมายว่าเป็นอันตราย

• บน Google หรือ Search Engine อื่น ๆ จะขึ้นข้อความ “เว็บไซต์นี้ไม่ปลอดภัย” ในผลการค้นหา
• เว็บไซต์อาจถูกจัดอยู่ใน Google Safe Browsing Blacklist
• ระบบอีเมลในโดเมนเดียวกันอาจถูกปฏิเสธ หรือถูกจัดเป็น Spam

ผลกระทบ:

• อันดับ SEO ตกลงอย่างรวดเร็ว
• อีเมลธุรกิจไม่สามารถติดต่อคู่ค้า/ลูกค้าได้ตามปกติ

ขั้นที่ 4 : การถูกปิดกั้นในระดับโครงสร้าง

หากยังไม่ดำเนินการแก้ไข เว็บไซต์อาจถูกระงับใช้งานโดย:

• Hosting Provider – ปิดการให้บริการเพื่อป้องกันการแพร่กระจายของไวรัส
• Domain Registrar – ระงับโดเมนชั่วคราว
• Blacklist ระดับ IP – ส่งผลให้เว็บไซต์อื่นที่ใช้ IP เดียวกันได้รับผลกระทบไปด้วย

ผลกระทบ: เว็บไซต์ไม่สามารถเข้าใช้งานได้โดยสมบูรณ์ และต้องใช้เวลา/ขั้นตอนที่ซับซ้อนในการปลดล็อกจากหลายหน่วยงาน (Domain, Hosting, Provider)